“เชื้อราที่เล็บ ปัญหาที่ไม่เล็ก”

ทำความรู้จักเชื้อราที่เล็บ

เชื้อราที่เล็บเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในประชากรที่มีการรักษาความสะอาดไม่ดีหรือมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ด้วยความรุนแรงที่แตกต่างกันไปตามบุคคลและเชื้อราที่เป็นสาเหตุ ในบทความนี้เราจะสำรวจเรื่องเชื้อราที่เกี่ยวกับเล็บทั้งหมดเพื่อให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการรักษาที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้

สาเหตุของเชื้อราที่เล็บ

มีสาเหตุจาก เชื้อราแคนดิดา มักเกิดกับนิ้วมือที่ต้องแช่น้ำ หรือ เปียกน้ำบ่อย ๆ เช่น ซักผ้า ล้างจาน เป็นต้น รวมถึงการสวมรองเท้าเก่าหรือถุงเท้าที่เปียกชื้น หรือเดินเท้าเปล่าในพื้นที่สาธารณะ เช่น ห้องอาบน้ำสาธารณะ หรือห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาจทําให้เล็บติดเชื้อราได้ รวมถึงโรคจากเชื้อรา บริเวณอื่น ๆ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ติดเชื้อ HIV, ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีโอกาสติดเชื้อรา ที่เล็บมากขึ้น

อาการของเชื้อราที่เกี่ยวกับเล็บ

อาการของเชื้อราที่เกี่ยวกับเล็บสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของการเข้าทำลายเล็บและผิวรอบเล็บ โดยทั่วไปแล้ว อาการสำคัญสำหรับเชื้อราที่เกี่ยวกับเล็บรวมถึง

1. การเปลี่ยนแปลงสีของเล็บ

  • เล็บเปลี่ยนเป็นสีเทาหรือดำ
  • มีลายเส้นขวางบนเล็บที่เปลี่ยนแปลงสี
  • เล็บเริ่มหรือเข้าสีส้ม แดง หรือน้ำเงิน

2. การเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของเล็บ

  • เล็บเริ่มทะลุแตกหรือแตก
  • เล็บเริ่มหัก
  • ความหนาและความกระชับของเล็บลดลง

3. อาการอื่นๆ รอบๆ เล็บ

  • ผิวรอบเล็บบวมหรือแดง
  • มีอาการคันหรือระคายเคืองรอบเล็บ
  • เล็บหรือผิวรอบเล็บมีเส้นเลือดเล็กๆ แตกหรือถูกทำลาย

4. อาการเสริมอื่นๆ

  • มีกลิ่นเหม็นผิวหรือเล็บ
  • ระคายเคืองหรือเจ็บปวดในบริเวณเล็บหรือรอบๆ เล็บ

อาการเหล่านี้อาจแสดงตั้งแต่ระดับเริ่มต้นที่ไม่มีอาการหนักมาก จนถึงระดับที่รุนแรงและทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่สามารถใช้มือหรือเท้าได้อย่างปกติ การรับรู้และรักษาโรคในระยะเริ่มต้นจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือความเสียหายที่รุนแรงกว่านี้ ในกรณีที่มีอาการข้างต้นควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมในขณะที่อาการยังไม่รุนแรง

การรักษาเชื้อราที่เล็บ

เชื้อราที่เล็บเป็นโรคที่ต้องรักษาเป็นระยะเวลานาน อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์จนถึงเป็นปี และสามารถกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้  อย่างไรก็ตามสามารถรักษาให้หายได้ถ้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยการรักษามีหลายวิธี ดังนี้

  1. กรณีที่ไม่รุนแรงมากไม่จำเป็นต้องรับการรักษา เนื่องจากมักไม่ก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มเติมใดๆ แต่ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเข้ารับการรักษาหรือไม่ คุณก็ยังต้องรักษาความสะอาดของเท้าเพื่อยับยั้งการลุกลามของเชื้อราอยู่ดี
  2. คุณสามารถปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรได้ หากกังวลกับรูปลักษณ์ของเล็บที่เปลี่ยนไป หรือประสบกับปัญหาความเจ็บปวด หรือไม่สบายตัวบริเวณเล็บเท้า ซึ่งแพทย์มักจ่ายยา ให้ชุดการรักษาและทำความสะอาดเล็บเท้าที่ติดเชื้อรา
  3. เปลี่ยนรองเท้าให้ง่ายต่อการรักษาแผล
  4. การรับประทานยาต้านเชื้อรา สามารถรักษาเชื้อราที่เล็บได้ แต่จำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่องหลายเดือนและต้องเฝ้าระวังผลข้างเคียงจากยา
  5. การใช้ยาเฉพาะที่ เช่น ยาน้ำหรือยาทาเคลือบเล็บ
  6. การรักษาอื่นๆ เช่น การถอดเล็บในกรณีที่มีอาการรุนแรง การรักษาด้วยเลเซอร์

เชื้อราที่เล็บป้องกันอย่างไร 

  • รักษาความสะอาดของมือและเท้า
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้มือเท้าเปียกชื้น
  • เลือกถุงเท้า รองเท้าที่มีขนาดเหมาะสม ไม่คับจนเกินไป สะอาด มีการระบายอากาศที่ดี
  • ดูแลเล็บให้สั้นและสะอาดเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ถุงเท้า รองเท้า กรรไกรตัดเล็บ ร่วมกับผู้อื่น
  • หมั่นสังเกตุผื่นและแผลที่เท้าสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน ถ้ามีความผิดปกติควรรีบรักษา

การรับรู้และการรักษาโรคเชื้อราที่เกี่ยวกับเล็บต้องการความสำรวจและการรักษาอย่างระมัดระวัง โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอีกครั้งในอนาคต การตรวจรักษาตัวอย่างที่น่าจะสำคัญเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาตัวอย่างที่ดี หากมีอาการเช่นการเปลี่ยนแปลงของเล็บหรือผิวรอบเล็บที่ไม่ปกติควรพบแพทย์เพื่อการประเมินและรักษาที่เหมาะสม

การรักษาเชื้อราในเล็บอาจใช้เวลาและต้องอยู่ในการดูแลของแพทยผิวหนังการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังและรักษาความสะอาดและสุขภาพของเล็บอย่างดีจะช่วยให้เล็บกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น อย่าละเลยการดูแลเล็บของคุณเนื่องจากเชื้อราในเล็บสามารถกลับมาเกิดอีกหากไม่รักษาให้ถูกต้องและครบถ้วน หากคุณมีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับโรคเชื้อราที่เล็บ สามารถปรึกษาได้ที่ “Seven Plus Clinic และ D’Secret Clinic” เราคือ คลินิกที่รับตรวจรักษา โรคเล็บ เล็บขบ ขอบเล็บอักเสบ เชื้อราที่เล็บ ผ่าตัดถอดเล็บ ครบวงจรเรามีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนังโดยเฉพาะ ให้การรักษาที่ตรงจุด ทำการตรวจโดยใช้แล็บต่างประเทศมีความแม่นยำสูงในการวินิจฉัยโรค

นำทีมแพทย์โดยพญ.มริญญา ผ่องผุดพันธ์ แพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง ตจแพทย์

ประสบการณ์การทำงาน

  • อาจารย์พิเศษแผนกผิวหนัง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
  • อาจารย์แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช
  • แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ผ่านการศึกษาจาก (Education)

  • Hair Restoration Training, Korea (2015)
  • Thai Board of Dermatology, Ramathibodi Hospital (2013)
  • Board of Dematopathology, Boston University, USA (2009)
  • Master of Science in Dermatology, Boston University, USA (2006)
  • Doctor of Medicine, Mahidol University (2001)
  • Nail surgery training
  • Laser expert training
  • Hair expert training
  • Boton university usa


สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเข้ารับคำปรึกษาและติดตามโปรโมชั่นราคาได้ทางช่องทางต่อไปนี้

Seven Plus Clinic

  • เปิดบริการทุกวัน 00 – 18.00 น.
  • facebook : SevenPlusClinic
  • Messenger : SevenPlusClinic
  • Line : @sevenplusclinic
  • Phone : 02-0055552 , 094-9242294 หรือ 084 6555588
  • Map : ศูนย์โรคผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เซเว่น พลัส ปากซอยพระรามเก้า 51สวนหลวง กรุงเทพมหานคร

D’Secret Clinic

  • facebook : Dsecretclinic
  • Messenger : Dsecretclinic
  • Line : @dsecretclinic
  • Phone : 02-910-2955 , 091-462-9154
  • Map : 67 ซ.ประชาชื่น 2 ถ.ริมคลองประปา แขวง บางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร (ร้านอยู่หัวมุมด้านซ้ายก่อนทางเข้าที่จอดรถโลตัส ประชาชื่น)

เกี่ยวกับเรา

เราคือผู้เชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคผิวหนัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่เน้นความโดดเด่นในการ
รักษาโรคผม เล็บ ผิวหนัง โดยเฉพาะ
อดีตอาจารย์แพทย์ รพ.รามา จบจากอเมริกา และเกาหลี

เนื้อหาล่าสุด

ติดตาม